เปิดเคล็ดลับการเลือก MC ให้ตอบโจทย์กับงานอีเวนท์!

จัดทำอีเวนท์เมื่อไหร่ สิ่งที่จะขาดไปไม่ได้นั่นก็คือ “สีสันของการดำเนินงาน” โดยผู้รับหน้าที่สำคัญนี้คือ MC โดยเฉพาะอย่างยิ่ง MC ระดับมืออาชีพที่เหมาะกับประเภทและสไตล์ของงาน เพื่อให้สามารถดำเนินการจัดอีเวนท์ตาม Sequence ได้อย่างราบรื่นมากที่สุด อย่างไรก็ตาม การเลือก MC ที่เหมาะสมอาจไม่ใช่เรื่องง่าย แต่วันนี้เรามีเทคนิคที่อยากจะบอกต่อมาฝากกัน หากพร้อมแล้วตามไปดูกันเลย!
ในการจัดทำอีเวนท์ นอกจากกระบวนการเตรียมตัวที่ดีเพื่อให้งานสำเร็จลุล่วงแล้ว ผู้ดำเนินงาน หรือ MC ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ส่งผลสำคัญต่อการจัดงานอีกด้วย แต่จะเลือกอย่างไรให้เหมาะสมกับงานแต่ละแคมเปญ วันนี้เราจะพาไปหาคำตอบกัน

ทำความรู้จักกับบทบาทของ MC อีกหนึ่งหน้าที่สำคัญในงานอีเวนท์

“MC” คือตัวย่อที่มาจาก Master of Ceremony ซึ่งหมายถึง ผู้ดำเนินรายการ หรือพิธีกร โดยจะรับหน้าที่ควบคุมและดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ภายในงานอีเวนท์ให้เป็นไปตามลำดับขั้นตอนที่กำหนดไว้ โดยหน้าที่หลัก ๆ ที่ต้องทำมี ดังนี้

• แนะนำผู้เข้าร่วมงาน
• แจ้งรายละเอียดของกิจกรรม
• แนะนำผู้พูด ผู้แสดง หรือผู้ร่วมกิจกรรมอื่น ๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในแต่ละช่วงของงาน
• ดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ให้เป็นไปอย่างราบรื่น

ทำไมทุกอีเวนท์ถึงควรมี MC?

เพราะ MC มีความสำคัญต่องานอีเวนท์เป็นอย่างมาก เนื่องจากต้องรับหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการเชื่อมประสานระหว่างผู้จัดงานและผู้เข้าร่วมงาน โดยความรับผิดชอบหลัก ๆ คือการช่วยให้งานดำเนินไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ ซึ่งการเลือก MC ที่เหมาะสมก็จะมีส่วนช่วยสร้างบรรยากาศที่ดีให้กับงานอีเวนท์ อีกทั้งยังช่วยดึงดูดความสนใจให้ผู้เข้าร่วมจดจ่ออยู่กับเนื้องานตั้งแต่ต้นจนจบ ช่วยให้งานประสบความสำเร็จได้ตามวัตถุประสงค์นั่นเอง

คุณสมบัติของ MC ที่ดีสำหรับงานอีเวนท์ คืออะไร?

เมื่อรู้เหตุแล้วว่าทำไมทุกอีเวนท์ถึงควรมี MC เช่นนั้นลองมาดูกันว่าแล้วคุณสมบัติที่ดีของพิธีกรในงานอีเวนท์ ควรจะต้องเป็นอย่างไร?

• มีทักษะการสื่อสารที่ดี: MC ต้องมีทักษะการสื่อสารที่ยอดเยี่ยมทั้งการพูดและเขียน สามารถใช้ภาษาได้อย่างถูกต้อง ชัดเจน และเข้าใจง่าย
  มีบุคลิกภาพที่ดี: เพราะ MC จะต้องดูน่าเชื่อถือตลอดการดำเนินงานอีเวนท์ จึงต้องมีบุคลิกภาพที่ดูดี ยิ้มแย้มแจ่มใสอยู่เสมอ นอกจากนี้ยังต้องแต่งกายสุภาพให้เหมาะสมกับงานอีกด้วย
• สามารถเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว: สามารถทำความเข้าใจกับวัตถุประสงค์ของแคมเปญอีเวนท์ รายละเอียดงาน สินค้าและแบรนด์ได้อย่างถ่องแท้ เพื่อให้สามารถนำเสนอข้อมูลต่าง ๆ ได้อย่างชัดเจน
• มีไหวพริบ: สามารถจัดการปัญหาได้ดี เพื่อรับมือและแก้ไขกับปัญหาเฉพาะหน้าอย่างทันท่วงที หากเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดขึ้น และรีบคลี่คลายสถานการณ์เพื่อกลับสู่ลำดับการนำเสนอตามกำหนดการต่อไป
• มีความรู้รอบตัวที่กว้างขวาง: เพื่อเสริมให้ MC นำไปใช้ในการดำเนินงานอีเวนท์ได้อย่างน่าสนใจและน่าติดตาม

ประเภทงานและการเลือก MC ให้เหมาะสมกับอีเวนท์

ก่อนไปดูเทคนิคการเลือก MC อันดับแรกต้องมาทำความเข้าใจกันก่อนว่างานอีเวนท์ในปัจจุบันที่จัดกันนั้นมีอยู่กี่ประเภท ซึ่งโดยทั่วไปจะแบ่งตามประเภทของวัตถุประสงค์ รูปแบบ และขนาดของการจัดงาน แต่ที่ได้รับความนิยมจะมีทั้งหมด 5 ประเภท ได้แก่

• งานอีเวนท์ทางธุรกิจ: จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมธุรกิจหรือองค์กร ตัวอย่างเช่น การประชุม สัมมนา งานแสดงสินค้า และงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์
• งานอีเวนท์ทางสังคม: จัดขึ้นเพื่อการสังสรรค์และสร้างเครือข่าย ตัวอย่างเช่น งานแต่งงาน งานวันเกิด งานเลี้ยงอาหารค่ำ และงานรื่นเริง
• งานอีเวนท์เพื่อการกุศล: จัดขึ้นเพื่อระดมทุนหรือสร้างความตระหนักรู้ให้กับองค์กรการกุศล ตัวอย่างเช่น การเดินแบบการกุศล งานแกลาดินเนอร์ และการประมูล
• งานอีเวนท์ส่วนตัว: จัดขึ้นสำหรับกลุ่มคนจำนวนน้อย ตัวอย่างเช่น งานปาร์ตี้ในบ้าน งานเลี้ยงอาหารค่ำ และงานฉลอง
• งานอีเวนท์สาธารณะ: เป็นประเภทของงานที่เปิดให้ทุกคนสามารถเข้าร่วมได้ ตัวอย่างเช่น งานเทศกาล คอนเสิร์ต และงานกีฬา

เทคนิคการเลือก MC ที่ตรงโจทย์งานอีเวนท์

เพื่อให้เจอ MC ที่ใช่กับสไตล์งานอีเวนท์ที่กล่าวไปข้างต้น การเรียนรู้เทคนิคสำหรับพิจารณาจัดหา MC จึงเป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะจะช่วยให้คุณสามารถคัดกรองคนที่มีความสามารถและประสิทธิภาพในการดำเนินงานได้ตรงกับความต้องการมากที่สุด โดยเกณฑ์การพิจารณาในเทคนิคการเลือก MC สามารถทำได้ง่าย ๆ ดังนี้

• ทดสอบความเข้าใจในวัตถุประสงค์การจัดงาน

ทำการทดสอบระหว่างขั้นตอนการเลือก MC โดยให้โจทย์เป็นวัตถุประสงค์ของการจัดงานอีเวนท์ เพื่อวัดความเข้าใจในสโคปงาน และศักยภาพในการดำเนินงานให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์นั้น ๆ เช่น อีเวนท์จัดงานเพื่อต้องการเปิดตัวสินค้าใหม่ MC ที่จะมาดำเนินงานก็ควรมีความเข้าใจในรายละเอียดสินค้า และสามารถนำเสนอได้อย่างน่าสนใจ เป็นต้น

• มีทักษะการสื่อสารที่ดี

MC ควรมีทักษะการสื่อสารที่ยอดเยี่ยมทั้งการพูดและเขียน สามารถใช้ภาษาได้อย่างถูกต้อง ชัดเจน และเข้าใจง่าย รวมถึงสามารถสื่อสารกับผู้เข้าร่วมงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น สามารถดึงดูดความสนใจของผู้เข้าร่วมงาน ด้วยการสื่อสารเนื้อหาที่ผ่านการย่อยและนำเสนอให้เข้าได้ใจง่าย และสามารถตอบคำถามของผู้เข้าร่วมงานได้อย่างเหมาะสม

• ตรวจเช็กจากผลงานที่เคยทำ

ควรตรวจเช็กผลงานที่เคยทำของ MC เพื่อพิจารณาว่าเหมาะกับงานที่ต้องการหรือไม่ เช่น ตรวจสอบว่า MC เคยดำเนินรายการประเภทใดมาก่อน เคยดำเนินรายการในงานที่มีวัตถุประสงค์คล้ายคลึงกับงานที่เราต้องการจัดหรือไม่ และได้รับการตอบรับจากผู้เข้าร่วมงานอย่างไร เพื่อให้มั่นใจว่า MC ที่เลือกมาจะสามารถรับผิดชอบงานที่มอบหมายได้ดี

• มีความรู้ความเชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้องกับงาน

หากงานที่ต้องการจัดมีความเฉพาะเจาะจงด้านเนื้อหาการดำเนินงานเข้ามาเกี่ยวข้อง ก็ควรทำการเลือก MC ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้องกับงานนั้น ๆ โดยตรง เช่น หากงานมีวัตถุประสงค์เพื่อสัมมนาวิชาการ MC ควรมีความรู้ด้านวิชาการที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อสัมมนา หรือหากงานมีวัตถุประสงค์เพื่อเปิดตัวสินค้านวัตกรรม MC ก็ควรมีความรู้ด้านเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับสินค้าอย่างลึกซึ้ง เป็นต้น

จะเห็นได้ว่าการเลือก MC ให้เหมาะสมกับงานนั้นมีความสำคัญเป็นอย่างมาก แต่ถ้าหากรู้สึกว่าขั้นตอนการคัดเลือกอาจจะต้องใช้เวลาและยากลำบากมากเกินไป ให้ No More Work ช่วยดูแลต่อได้! เพราะเรามีบริการจัดหาพิธีกร MC ที่ผ่านการคัดสรรเป็นอย่างดีจากการพิจารณาของทีมผู้เชี่ยวชาญของเราที่มีประสบการณ์มานานกว่า 10 ปี หากสนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อได้เลยทางอีเมล work@nomorework.co หรือโทร. 02-121-4361, 095-465-6452 ทีมงานของเราพร้อมให้บริการ