โนมอร์เวิร์ค ร่วมสนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์ที่ สถาบันบำราศนราดูร

โนมอร์เวิร์ค ร่วมสนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์ที่ สถาบันบำราศนราดูร

    สวัสดีครับเพื่อนๆ วันนี้พวกเราชาว No More Work ได้มีโอกาสไปร่วมสนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์ที่ สถาบันบำราศนราดูร กรมควบคุมโรค ซึ่งอยู่ใกล้ๆ ออฟฟิศของเรานี่เอง บอกได้เลยว่าที่นี่มีบุคลากรทางการแพทย์กว่า 900 ชีวิตที่ทุ่มเททำงานอย่างหนักตลอดช่วงวิกฤต ทางเราก็หวังว่าการส่งพลังเล็กๆของพวกเราจะช่วยเป็นกำลังใจให้บุคลากรทางการแพทย์ของที่นี่ได้ไม่มากก็น้อยครับ

No More Work ร่วมมือร้าน T21 - ทีทูวัน​ มอบเครื่องดื่มจำนวน 200 ขวด แก่บุคลากรทางการแพทย์

    เพื่อนๆหลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมเราต้องไปบริจาคเครื่องดื่มให้ทาง สถาบันบำราศนราดูร เพราะว่า เจ้าหน้าที่ในสถาบันบำราศนราดูร ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักที่รักษาผู้ป่วยโควิด-19 มาตั้งแต่ไทยพบผู้ติดเชื้อรายแรก หรือตั้งแต่จุดเริ่มต้นการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในไทยเลยทีเดียวครับ

    ในขณะที่หลายคนได้ Work From Home (ทำงานจากบ้าน) และ อยู่บ้านหยุดเชื้อเพื่อชาติ แต่ทางบุคลากรทางการแพทย์กำลังปฏิบัติหน้าที่อย่างไม่หยุดหย่อนในการรับมือกับไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ พยาบาลเป็นหนึ่งในบุคลากรทางการแพทย์กลุ่มแรก ๆ ที่ต้องรับมือกับโรคโควิด-19 ทางทีมพยาบาบาลต้องเผชิญกับเชื้อโรคต่างๆ ทั้งๆที่ไม่มีใครรู้อะไรมากนักเกี่ยวกับโรคติดต่อชนิดนี้ แต่ด้วยหน้าที่ ทุกคนต้องเก็บความกลัวนั้นไว้และทำงานตามแผนรับมือโรคอุบัติใหม่ครั้งนี้ให้ผ่านไปได้ด้วยดี

ทำไมเราไปบริจาคมอบเครื่องดื่มที่สถาบันบำราศนราดูร

    สถาบันบำราศนราดูร เป็นสถาบันหลักของประเทศไทยในการดูแลผู้ป่วยโรคติดต่ออันตราย โรคติดเชื้อ โรคอุบัติใหม่ โรคอุบัติซ้ำและโรคติดต่ออื่น ๆ จึงต้องรับภารกิจหนักเมื่อเกิดการระบาดของโรคโควิด-19 สิ่งหนึ่งที่ทำให้สถาบันฯ รับมือกับภารกิจประวัติศาสตร์ครั้งนี้ได้ดีเป็นเพราะที่ผ่านมาบุคลากรได้ฝึกซ้อมการใส่อุปกรณ์ PPE กันมานับครั้งไม่ถ้วน เพื่อป้องกันตัวเองจากการติดเชื้อเมื่อเกิดโรคระบาดใหญ่เช่นนี้

    จากที่กล่าวไปด้านบนว่า สถาบันบำราศนราดูร ถือเป็น โรงพยาบาลแห่งแรกๆที่รับศึกโควิด-19 ตั้งแต่ยังเรียกกันว่าไวรัสสายพันธุ์ใหม่จากเมืองอู่ฮั่นด้วยซํ้า ในฐานะที่เป็นโรงพยาบาลของกรมควบคุม โรคที่เป็นแม่ทัพหลักในการต่อสู้กับไวรัสมหาภัยสายพันธุ์นี้โดยตรง

    ดังนั้น ทางโนมอร์เวิร์คจึงขออนุญาตนำท่านผู้อ่านไปรู้จักกับสถาบันแห่งนี้ในแง่มุมต่างๆมากขึ้น ทั้งในแง่ความรู้ ความสามารถทางด้านการต่อสู้กับโรคติดต่อครับ

ประวัติของสถาบันบำราศนราดูร

    มาเริ่มกันที่ประวัติความเป็นมาเสียก่อนว่าโรงพยาบาล หรือสถาบันแห่งนี้ถือกำเนิดขึ้น ในยุคสมัยใด และมีจุดเริ่มต้นขึ้นอย่างไร? คงต้องย้อนหลังกลับไปเมื่อพุทธศักราช 2502 ในยุคที่ จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ปฏิวัติ ยึดอำนาจการปกครองจาก จอมพล ป. พิบูลสงคราม และหลังจากให้ จอมพลถนอม กิติขจร มือขวาของท่านขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีขัดตาทัพได้ปีเศษ จอมพลสฤษดิ์ก็ตัดสินใจมาเป็นนายกรัฐมนตรีด้วยตนเอง

    ว่ากันว่าจอมพลสฤษดิ์ชื่นชมอดีตปลัดกระทรวงสาธารณสุขท่านหนึ่งที่ชื่อ พระบำราศนราดูร และได้ขอร้องให้มาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขในยุคของท่าน โดยมิได้รู้จักใกล้ชิดมาก่อนเลย ซึ่งก็พอดีประเทศไทยเกิดโรคอหิวาต์ระบาด ค่อนข้างรุนแรง นำความหวาดหวั่นและวิตกมาสู่ ประชาชนชาวไทยเป็นอย่างมาก แต่ด้วยความเข้มแข็งรู้งานสาธารณสุขจริงของรัฐมนตรีท่านนี้ ในที่สุดรัฐบาลสฤษดิ์สามารถปราบอหิวาต์ลงได้ จอมพลสฤษดิ์ชื่นชมมากและเห็นว่าโรงพยาบาลรักษาคนไข้โรคติดต่อซึ่งยุคนั้นเป็นพระเอกในการรับคนไข้อหิวาต์ที่ตั้งอยู่แถวๆดินแดงค่อนข้างเสื่อมโทรมไม่สมกับที่จะเป็นโรงพยาบาลโรคติดต่อ ต่อไป

    จึงให้งบประมาณไปสร้างใหม่ที่นนทบุรี ในพื้นที่ส่วนหนึ่งของ โรงพยาบาลศรีธัญญา พร้อมกับให้ชื่อโรงพยาบาลแห่งนี้ว่า โรงพยาบาลบำราศนราดูร ตามชื่อของผู้ปราบอหิวาต์สำเร็จรวมทั้งท่านจอมพลยังได้เดินทางไปเปิดโรงพยาบาลด้วยตนเองเมื่อปลายปี 2503

    พระบำราศนราดูร ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีสาธารณสุขในยุคจอมพลสฤษดิ์ ต่อเนื่องมาจนถึงยุคจอมพลถนอม และพ้นจากตำแหน่งเมื่อ พ.ศ. 2512 พร้อมกับสร้างผลงานด้านสาธารณสุขเอาไว้ มากมาย อาทิ โครงการควบคุมวัณโรค โครงการกวาดล้างไข้มาลาเรีย โครงการรักษาไข้เลือดออก การก่อตั้งสถาบันมะเร็งแห่งชาติ และการส่งเสริมพัฒนาอนามัยประชาชนในชนบท ฯลฯ ท่านถึงแก่อนิจกรรมเมื่อปี พ.ศ.2527 สิริ อายุ 88 ปี ปิดตำนานอันยิ่งใหญ่ของนักเรียนแพทย์ จากโรงเรียนราชแพทยาลัย กระทรวงธรรมการ ซึ่งเป็นโรงเรียนแพทย์แห่งแรกของประเทศ แม้จะไม่เคยไปเรียนต่างประเทศเลย แต่ ท่านก็รับราชการในกรมสาธารณสุข ซึ่งต่อมายกฐานะเป็นกระทรวงสาธารณสุขด้วยความรู้ ความสามารถอันยอดเยี่ยม จนได้เป็นปลัดกระทรวง เมื่อปี พ.ศ.2497 อยู่ในตำแหน่งจนเกษียณ อายุปี 2499 แล้วยังได้ต่ออายุราชการจนถึงปี 2501 ซึ่งตลอดเวลาที่รับราชการงานที่สร้างชื่อเสียง ให้แก่ท่านมาตลอดก็คือ การปราบโรค อหิวาต์ระบาด นั่นเอง

    นี่คือที่มาของชื่อ สถาบันบำราศนราดูร (ยกฐานะจากโรงพยาบาลบำราศนราดูร เมื่อ พ.ศ. 2545) หนึ่งในทัพหน้าต่อสู้โควิด-19 โรคระบาดของยุคใหม่ นับเป็นชื่อที่มีความหมายอย่างยิ่ง เพราะ พระบำราศนราดูร คือมือปราบโรคระบาดร้ายแรง (อหิวาต์) คนสำคัญของประเทศไทย แม้ว่าภารกิจหลักของสถาบันบำราศนราดูรในสังกัดกรมควบคุมโรคในปัจจุบันจะเน้นไปที่การวิเคราะห์วิจัยพัฒนาป้องกันควบคุม ตรวจวินิจฉัย และรักษาโรค เอดส์ จนได้ชื่อว่าเป็นสถาบันที่มี ความรู้ความสามารถโรคนี้อย่างดีเยี่ยม แต่ก็มีภารกิจหลักอีกภารกิจหนึ่ง

นั่นก็คือ ภารกิจที่จะดูแล “โรคที่เป็นปัญหาสำคัญ” ของประเทศควบคู่ไปด้วย บุคลากรของสถาบันนี้จึงมีความรู้เกี่ยวกับ โรคติดต่อ หรือโรคระบาดที่เป็นปัญหาสำคัญทุกโรค และสามารถนำมาปรับใช้กับการรักษาและ ป้องกันโรคใหม่ๆได้อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งโรค ระบาดโควิด-19 ในครั้งนี้

การเข้ารับการรักษาในสถาบันบำราศนราดูร

    ภายในสถาบันบำราศนราดูรมีบริการรักษาและดูแลผู้ป่วยมากมาย ไม่จำเป็นต้องเป็นผู้ป่วยที่มีอาการติดเชื้อร้ายแรงเพียงอย่างเดียว ซึ่งหากคุณสงสัยว่าตัวเองกำลังป่วยเป็นโรคติดต่อจากต่างประเทศ หรือต้องการเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันเมื่อต้องเดินทางไปต่างประเทศ ก็ขอเข้ารับการรักษาได้ จองคิวออนไลน์ได้ด้วย โดยสถาบันบำราศนราดูร แบ่งออกเป็นกลุ่มงานต่าง ๆ ดังนี้

  • กลุ่มงานตรวจสุขภาพ
  • กลุ่มงานอายุรกรรม
  • กลุ่มงานศัลยกรรม
  • กลุ่มงานนรีเวชกรรม
  • กลุ่มงานกุมารเวชกรรม
  • กลุ่มงานโสต ศอ นาสิก
  • กลุ่มงานจักษุกรรม
  • กลุ่มงานรังสีวิทยา
  • กลุ่มงานทันตกรรม
  • กลุ่มงานเภสัชกรรม
  • กลุ่มงานวิสัญญีวิทยา
  • กลุ่มงานกายภาพบำบัด
  • หน่วยงานบริการผู้ป่วยฉุกเฉิน
  • กลุ่มปฏิบัติการเทคนิคการแพทย์และอ้างอิงด้านโรคติดเชื้อ
  • หน่วยงานคลินิกเวชศาสตร์การเดินทางและท่องเที่ยว
  • และอื่น ๆ

    ซึ่งหากต้องมีการดูแลผู้ป่วยที่ติดเชื้อจากโรคระบาดร้ายแรงที่ตรวจพบตามสนามบิน หรือแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ ก็จะมีการพาตัวมาส่งเพื่อกักตัวที่สถาบันบำราศนราดูร ซึ่งภายในสถาบัน จะได้รับการดูแลรักษาจากแพทย์และพยาบาลอย่างสะดวก และมั่นใจว่าคุณหมอจะดูแลคุณอย่างดีที่สุด แม้ว่าภาพการพาตัวไปรักษาจะดูน่ากลัวไปบ้าง แต่เป็นการปฏิบัติตามหลักการจัดการโรคระบาดอันตราย ที่ใช้กันทั่วโลก แต่หากเป็นโรคทั่ว ๆ ไป ก็จะไม่ได้ส่งตัวเข้มข้นขนาดนี้

ช่วยเหลือแพทย์ และบุคลากรทางการแพทย์ ที่สถาบันบำราศ ฯ ได้อย่างไร?

    หากคุณมีความรักที่จะช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ ต้องการบริจาคเพื่อซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ แก่สถาบันบำราศนราดูร ก็สามารถทำได้ด้วยการบริจาคผ่าน QR Code ด้านล่างนี้ เพื่อให้ทางสถาบัน ได้นำไปจัดการค่าใช้จ่ายในการดูแลผู้ป่วยและซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ โดยเฉพาะในภาวะที่มีโรคระบาดแบบนี้

ติดต่อสถาบันบำราศนราดูร

ที่อยู่ : 38 หมู่ 4 ถ.ติวานนท์ อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
โทรศัพท์ 02-590-3519, ปรึกษา 02-590-3737, จิตวิทยา 02-590-3508
อีเมล : csg2550@gmail.com

    ซึ่งทางโนมอร์เวิร์คก็อยากจะ Support ทีมเจ้าหน้าที่ให้ได้มากที่สุด ในส่วนของที่เราทำได้ เราโชคดีที่มี ร้าน T21 – ทีทูวัน พาร์ทเนอร์ในการรับออเดอร์น้ำชานมไต้หวัน และ ชาอู่หลงเย็นพร้อมดื่ม จำนวน 200 ขวด เพื่อนำไปมอบเป็นกำลังใจเล็กๆให้เจ้าที่ดื่ม เพื่อเพิ่มความสดชื่น หลังจากเหนื่อยล้าจากการดูแลผู้ป่วยครับ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : Promotions และ BBC Thai และ Thairath

หากเพื่อนๆ ท่านใดสนใจสามารถสั่งที่เพจของร้าน T21 ได้เลยครับ ร้านยินดีดำเนินการไปส่งให้ด้วยครับ ลิ้งค์ร้าน https://www.facebook.com/T21TeaHouse

#ร่วมด้วยช่วยกัน #ร่วมสนับสนุนอาหารและเครื่องดื่ม #ร่วมสนับสนุนบุคลากรกทางการแพทย์ #สิ่งเล็กๆที่สร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่ #สู้ไปด้วยกัน #สู้โควิด

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า