ฟังบทสัมภาษณ์ เกี่ยวกับเรื่องการ “ไลฟ์สด” ของคุณชัชชาติ ผู้ว่าฯ กทม.

ฟังบทสัมภาษณ์ เกี่ยวกับเรื่องการ “ไลฟ์สด” ของคุณชัชชาติ ผู้ว่าฯ กทม.

    เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสดูคุณชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พูดคุยในรายการ FCCT ในหัวข้อที่หลากหลายแต่มีอยู่ประเด็นนึงที่ผมรู้สึกชอบและทัชใจเป็นพิเศษ เกี่ยวกับเสียงวิจารณ์เรื่องการ “ไลฟ์สด” ของคุณชัชชาติ คุณชัชชาติกล่าวว่าอย่างไร ไปดูกันเลยครับ

Table of Contents

คุณชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร สัมภาษณ์เกี่ยวกับ "ไลฟ์สด"

    “ ไลฟ์ นี่มันเลือกได้นะว่าจะดูหรือไม่ดู แต่มันคือ วิธีที่เราสื่อสารกับคน แสดงให้เห็นว่าเงินภาษีมันถูกใช้จ่ายไปยังไง แต่มีเรื่องนึงที่กินใจผมมาก คือมีเด็กผู้หญิงคนนึงเข้ามาหาผม แล้วบอกว่าเธอเป็นซึมเศร้า แต่เมื่อเธอได้ดูไลฟ์ของผม ทำให้เธอมีความหวัง และเริ่มออกไปใช้ชีวิตนอกบ้าน ทำกิจกรรม คอมเม้นต์นี้คือคอมเม้นต์เดียวเลยที่ทำเป็นเหตุผลให้ผมไลฟ์ทุกวัน ถ้ามันเปลี่ยนชีวิตคนได้สักคนผมก็ไม่สนใจแล้ว ผมจะไลฟ์ แล้วถ้ามันให้ความหวังใครได้ผมก็จะทำ ไม่ว่าใครจะว่ายังไงก็ตาม”
    เมื่อผมได้ยินคำตอบนั้น ผมกลับรู้สึกว่า การไลฟ์มันไม่ได้มีประโยชน์แค่เพื่อความบันเทิงหรือเพื่อการขายของเท่านั้น แต่ยังสามารถให้ความสุขและสร้างความหวังกับผู้คนได้มากมาย อีกทั้งการไลฟ์ยังให้ทั้ง ความรู้ โอกาส พื้นที่ สังคม หรืออาจจะให้อะไรอีกมากมายโดยที่เราคิดไม่ถึงก็ได้

    หลายคนคงคุ้นเคยการทักทายเป็นกันเองแบบนี้จาก ‘การถ่ายทอดสด’ หรือ ‘ไลฟ์’ ของ ‘ชัชชาติ สิทธิพันธุ์’ ผู้ว่าฯ กทม. คนที่ 17 ซึ่งตั้งแต่รับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ ชัชชาติได้ถ่ายทอดสดภารกิจในแต่ละวัน ตั้งแต่การวิ่งในเมืองแบบ City Run ช่วงเช้าตรู่ การลงพื้นที่พบปะชาวบ้าน ไปจนถึงการประชุมกับหน่วยงานต่างๆ ให้ประชาชนได้สำรวจกรุงเทพฯ ไปพร้อมกับผู้ว่าฯ แบบเรียลไทม์แทบจะตลอดทั้งวัน

    การถ่ายทอดสดของชัชชาติได้รับความนิยมอย่างมาก ไลฟ์แต่ละครั้งมียอดผู้ชมแบบ Real Time ทะลุหลักหมื่นอย่างรวดเร็ว ส่วนคอมเมนต์ก็เพิ่มขึ้นรัวๆ จนอ่านแทบไม่ทัน และมียอดวิวถึงหลักล้าน เราเชื่อว่าความสำเร็จเหล่านี้ส่วนหนึ่งเกิดจากความมุ่งมั่นในการทำงาน การเปิดเผยข้อมูลแบบตรงไปตรงมา รวมไปถึงการให้ข้อมูลของชัชชาติที่ครอบคลุมการแก้ไขปัญหาเมืองอย่างหลากมิติ

บทสัมภาษณ์ของ แอดมินหมู ผู้ช่วยผู้ว่าชัชชาติ เกี่ยวกับ "ไลฟ์สด"

    ซึ่งอีกหนึ่งฟันเฟืองสำคัญของการ Live สด บนเพจของคุณ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ นั้นก็คือ แอดมินหมู หรือคุณ หมู-วิทยา ดอกกลาง ซึ่งวันนี้ทางโนมอร์เวิร์คขอนำบทความ ที่ทาง Urbancreature ได้ไปสัมภาษณ์ คุณหมู มาแชร์ต่อให้ทุกคนได้อ่านในมุมมองของการเป็นแอดมินผู้ช่วย คุณชัชชาติ กันครับ

    คุณหมู วัย 26 ปี จบการศึกษาระดับปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรมและเทคโนโลยี สาขาเทคโนโลยีการศึกษาและสื่อสารมวลชน คุณหมูชื่นชอบและทำงานด้านการผลิตสื่อมาตั้งแต่สมัยเรียนมหา’ลัย หลังจากเรียนจบ เขาได้เปิดบริษัทโปรดักชันเฮาส์ของตัวเอง และมีโอกาสทำงานให้ชัชชาติมานานหนึ่งปีกว่าแล้ว

ทำไมถึงได้มาทำงานให้กับ ‘ชัชชาติ สิทธิพันธุ์’

    “ช่วงที่ทำโปรดักชันเฮาส์ ผมทำงานวิดีโอที่เกี่ยวข้องกับประเด็นสังคมและเมืองอยู่แล้ว แต่เดิมผมรู้จักและทำงานกับพี่ศานนท์ หวังสร้างบุญ (รองผู้ว่าฯ กทม. คนปัจจุบัน) อยู่แล้ว เคยมีโอกาสผลิตสื่อให้พี่ศานนท์หลายโปรเจกต์ เช่น สารคดีเกี่ยวกับการพัฒนาเมือง และโครงการออกแบบป้ายรถเมล์ของกลุ่ม MAYDAY! พี่ศานนท์เห็นว่าเราชอบงานลงพื้นที่ งานสังคม งานพูดคุยกับประชาชน เขาเลยชวนให้มาทำสื่อช่วยอาจารย์ชัชชาติ ผมทำงานให้กับอาจารย์ชัชชาติตั้งแต่ต้นปี 2564 หรือประมาณหนึ่งปีกว่าแล้วครับ”

จุดเริ่มต้นการเป็น ‘มือไลฟ์’ เกิดขึ้นตอนไหน

   ” ปกติผมมีหน้าที่ถ่ายวิดีโอเป็นหลัก แต่วันที่มีการจับสลากเบอร์ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. (31 มีนาคม 2565) พี่ในทีมบอกให้ช่างภาพอีกคนมาถ่ายวิดีโอแทนผม และบอกให้ผมไปไลฟ์แทน เราไม่ได้ถามเหตุผลเพราะเราเข้าใจว่าเขาคงอยากให้ช่างภาพคนนั้นมาทำงานแทนเรา “

    “ตอนที่ต้องไลฟ์ก็รู้สึกแปลกๆ เพราะปกติผมถือกล้องใหญ่เวอร์วังอลังการมาตลอด แต่จู่ๆ ต้องมาถือโทรศัพท์แทน ผมรู้สึกโง่เลย ไม่รู้ว่าต้องทำอะไรบ้าง แต่ผมถือคติที่ว่า ไม่มีอะไรที่เราทำไม่ได้ ถ้ายังไม่ได้ลงมือทำ ถึงแม้ว่าผมจะทำงานด้านสื่อมาตลอด รู้วิธีถือกล้อง มีทักษะการพูดอยู่บ้าง แต่ผมไม่รู้ว่าการถ่ายทอดสดหรือการรายงานข่าวต้องพูดอะไร วันแรกเลยใช้วิธีเก็บข้อมูลและดูวิธีของนักข่าวที่อยู่รอบๆ หลังจากนั้นก็ปรับการพูดให้เป็นสไตล์ของตัวเอง”

    “วันแรกที่ไลฟ์กระแสก็ดีเลย มีคนวิ่งมาหาอาจารย์ชัชชาติประมาณ 10 คน อาจารย์ตกใจ ถามว่ามาจากไหนกัน พวกเขาบอกว่าตามมาจากไลฟ์ หลังจากนั้นก็กลายเป็นธรรมเนียมว่า ถ้าดูไลฟ์อยู่ ทุกคนสามารถตามมาหาอาจารย์ชัชชาติได้เสมอ วันแรกมีคนดูไลฟ์ประมาณ 1,700 คน อาจารย์ชัชชาติดีใจที่มีคนติดตามเยอะ แต่ในมุมมองของเรายังเป็นตัวเลขที่น้อย ถ้าเทียบกับจำนวนคนติดตามเพจในตอนนั้น 8 แสนกว่าคน แต่เราก็ไลฟ์มาเรื่อยๆ จนคนติดการดูถ่ายทอดสดมากขึ้น นั่นแหละครับ จากวันแรกที่ได้รับมอบหมายให้ไลฟ์แค่วันเดียว แต่วันนั้นคือวันที่พลิกทุกอย่างจากหน้ามือเป็นหลังมือ เปลี่ยนทุกอย่างไปหมดเลย นับจากวันแรกจนถึงตอนนี้ ผมไลฟ์ติดต่อกันมานานเกือบ 3 เดือนแล้ว”

การไลฟ์แต่ละครั้งประเด็นค่อนข้างหลากหลาย แทบจะไม่ซ้ำกัน คุณมีวิธีเตรียมตัวและเตรียมข้อมูลยังไง

    “ส่วนใหญ่ผมจะรู้ตารางงานล่วงหน้าไม่นานมาก บางครั้งก็เป็นการลงพื้นที่แบบกะทันหัน การไลฟ์จึงต้องอาศัยไหวพริบหน้างานเป็นหลัก เมื่อไปถึงผมจะเริ่มหาข้อมูล สังเกตพื้นที่โดยรอบ สอบถามประชาชนว่าเกิดอะไรขึ้น จากนั้นเอาคำตอบของชาวบ้านและข้อมูลจากอาจารย์ชัชชาติมารวบรวมและต่อยอดเพื่อสื่อสารผ่านไลฟ์อีกทอดหนึ่ง  ถ้าเกิดข้อสงสัย ผมก็จะถามอาจารย์ชัชชาติต่อทันที ผมจะรับบทเป็นประชาชนคนหนึ่ง เป็นตัวแทนของคนที่ไม่รู้อะไรเลย ส่วนอาจารย์จะเป็นผู้รู้ เป็นคนคอยตอบคำถามของประชาชน ส่วนเรื่องไหนที่ผมรู้อยู่แล้ว ผมก็จะพูดเสริมและสรุปให้อีกที”

    “การไลฟ์ช่วงแรกต้องใช้ทักษะการสังเกตพื้นที่เป็นหลัก แต่ช่วงหลังๆ ผมเริ่มมีข้อมูลและความรู้มากขึ้น พอจะคาดการณ์ออกแล้วว่า ปัญหาประเภทนี้อาจารย์ชัชชาติจะตอบว่าอะไร จะโยงไปนโยบายไหนได้บ้าง เช่น การเพิ่มไฟส่องสว่าง, การปรับปรุงป้ายรถเมล์, พื้นที่สำหรับหาบเร่แผงลอย, สวน 15 นาที, ดนตรีในสวน, พื้นที่สร้างสรรค์ เป็นชุดข้อมูลที่ผมตอบประชาชนในไลฟ์ได้ทันที”

สิ่งที่ต้องระวังที่สุดระหว่างไลฟ์คืออะไร

    “เรื่องกฎหมายครับ ต้องระวังเรื่องการพูดดูถูก การกล่าวถึงผู้อื่น การถ่ายวิดีโอติดบุคคลอื่น หรือการทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง เช่น ช่วงหาเสียงมีข้อบังคับห้ามเต้นระหว่างหาเสียง เราต้องควบคุมสถานการณ์หน้างาน ไม่ให้ผิดกฎระเบียบ ไม่ได้ทำหน้าที่ถ่ายทอดสดเพียงอย่างเดียว”

    “หลายเหตุการณ์ผมต้องควบคุมกะทันหันมาก อย่างเช่นเคยมีคนวิ่งเอาป้ายหาเสียงมาให้อาจารย์ชัชชาติเซ็น เราต้องรีบห้าม ไม่ถ่ายออกไลฟ์ เพราะมันจะเข้าข่ายผิดกฎหมายเลือกตั้งที่ระบุว่าห้ามแจกป้ายหาเสียงแม้จะเลือกตั้งเสร็จแล้วก็ตาม ส่วนปัจจุบันก็จะมีกฎหมาย PDPA ห้ามถ่ายรูปหรือถ่ายวิดีโอติดหน้าผู้อื่นหากไม่ได้รับอนุญาต ทุกครั้งที่มีประชาชนเข้ามาขอถ่ายรูปหรือพูดคุยกับอาจารย์ชัชชาติ ผมจะขออนุญาตก่อนทุกครั้ง แต่ถ้ามีเด็กเล็กมาด้วย ผมจะพยายามไม่ถ่ายติดเด็กครับ”

หลังจากลงพื้นที่กับชัชชาติมานานกว่าหนึ่งปี คุณได้เรียนรู้อะไรบ้าง

    “อาจารย์ชัชชาติเป็นคนที่มองโลกในแง่ดี ไม่ว่าจะเจอสถานการณ์แบบไหนก็จะคิดบวกเสมอ ประนีประนอม ขอความร่วมมือทุกฝ่ายช่วยกันแก้ปัญหา นี่คือสิ่งที่ผมเรียนรู้และซึมซับมาโดยตรง ส่วนวิธีทำงานของผมและอาจารย์ชัชชาติคล้ายกันอยู่แล้วคือลุยทันที ไปไหนไปกัน ถ้าตรงไหนมีปัญหาที่แก้ได้ทันที อาจารย์ชัชชาติจะสั่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลและแก้ไขทันที เพราะบางเรื่อง ถ้าไม่ทำวันนี้ ก็ไม่รู้จะทำวันไหน”

คุณคิดว่าการไลฟ์ของชัชชาติมีบทบาทหรือเป็นสื่อกลางระหว่างเรื่องการเมืองกับประชาชนอย่างไร

    “ผมคิดว่ามันเป็นช่องทางที่ประชาชนสามารถสื่อสารกับผู้ว่าฯ ได้โดยตรงและรวดเร็ว โดยมีผมเป็นตัวกลาง ผมเป็นตัวแทนของประชาชนในการตั้งคำถาม จี้ปมปัญหาทุกอย่าง ผมเป็นตัวแทนของผู้ชมทุกคน มีคนดูสองหมื่นสามหมื่นคน ผมถามให้ได้ทุกคน อาจจะมีบางคอมเมนต์ที่อ่านไม่ทันจริงๆ “

    “แต่รู้ไหมครับว่าอาจารย์ชัชชาติอ่านคอมเมนต์ย้อนหลังทุกคอมเมนต์เลย มีเป็นหมื่นคอมเมนต์เขาอ่านหมดเลยจริงๆ ว่างเมื่อไหร่คือนั่งอ่านคอมเมนต์ เขาแก้ไขตามจุดต่างๆ ที่ประชาชนคอมเมนต์มา อย่างตอนที่มีคนคอมเมนต์เรื่องปัญหาบริเวณถนนพระรามสาม เขาก็ลงพื้นที่ไปแก้ไขทันที “

    “อาจารย์ชัชชาติเห็นคุณค่าเสียงของประชาชนจริงๆ พูดแล้วอาจจะฟังดูสวยหรูนะ แต่เขาทำจริงๆ การใช้แอปพลิเคชันอย่าง Traffy Fondue อาจเป็นแค่ช่องทางหนึ่งในการรับแจ้งและจัดการปัญหา แต่การคอมเมนต์ผ่านไลฟ์เป็นช่องทางร้องทุกข์ที่เร็วกว่าแอปฯ อีก เสียงของประชาชนในคอมเมนต์สำคัญกับอาจารย์ชัชชาติมาก เห็นได้จากในไลฟ์ เขาจะคุยกับกล้องตลอด บอกให้ทุกคนคอมเมนต์มา บางคำถามเขาจะมาตอบในไลฟ์ถัดไป ผมคิดว่าหนึ่งเหตุผลที่ประชาชนกล้าคอมเมนต์และร้องทุกข์มามากขนาดนี้ อาจเป็นเพราะว่าอาจารย์ชัชชาติเป็นกันเองกับแอดมิน ทำให้แอดมินกล้าพูด กล้าถาม แบบไม่ต้องเกร็ง พอประชาชนเห็นแบบนี้ พวกเขาเลยกล้าแสดงความคิดเห็นมากขึ้น เพราะพวกเขารู้ว่าแอดมินเป็นตัวแทนให้พวกเขาได้ ผมมองว่าการไลฟ์เป็นช่องทางที่เชื่อมโยงผู้คนได้ดีมาก”

    ในส่วนนี้ก็จะเป็นเนื้อหาคร่าวๆ ที่ทางคุณหมู แอดมินผู้ช่วยในการถ่ายทอดสด ให้กับเพจคุณชัชชาติ ที่ได้ให้สัมภาษณ์ไว้กับ ทาง urbancreature เพื่อนๆคนไหนอยากอ่านแบบเต็มๆสามารถไปที่ลิงก์นี้ได้เลยครับ https://urbancreature.co/wittaya-dokklang/
    กล่าวสรุปคือ ปัจจุบันการทำไลฟ์เป็นเรื่องทั่วไป ที่ใครๆ ก็สามารถเข้าถึงหรือสามารถทำเองได้ง่ายๆ ผ่านโปรแกรมหรือแอพพลิเคชั่นต่างๆ ทำให้เกิดคอนเทรต์แบบ real time ให้ผู้คนได้ติดตามกัน รวมถึงได้รู้จักตัวตนของเรา ได้ตลอดครับ

มองหาผู้ให้บริการ Live Streaming

    No More Work เรามีความตั้งใจในการสร้างสรรค์ผลงานเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าและสร้างคุณค่าให้กับงานนั้นๆ เรามีบริการเกี่ยวกับการผลิตสื่อออนไลน์ทุกรูปแบบ(Online Production) ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายทอดสด Video and Live Streaming, Unreal Engine, Virtual Event, Project Management, Creative Design, Avatar, Virtual Stage, Website Services, Internet Solution รวมไปถึงการดูแลจัดการ KOL / Influencer ทุกระดับ
 

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า