การถ่ายทอดสด หรือ Live Stream บนรถขณะเคลื่อนที่กำลังกลายเป็นเทรนด์ที่น่าสนใจในยุคปัจจุบัน เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะเพิ่มลูกเล่นให้กับงานอีเวนท์ของคุณ ที่ไม่จำเป็นต้องจัดอยู่ ณ ที่ใดที่หนึ่ง อีกทั้งยังเพิ่มการเข้าถึงผู้ชมที่หลากหลายกลุ่มมากขึ้น ด้วยการพัฒนาของเทคโนโลยีต่างๆของอินเตอร์เน็ต ที่ทำให้การสื่อสารไร้สายนั้นมีความเร็วและเสถียรมากยิ่งขึ้น ปี 2024 จึงทำให้การทำ Live Stream บนรถขณะเคลื่อนที่นั้นสะดวกและง่ายมากยิ่งขึ้น ในบทความนี้ จะขอพาทุกคนไปรู้จักกับ Live Stream บนรถแบบเคลื่อนที่ยังน่าสนใจอยู่ไหมในปี 2024 และหากเกิดปัญหาจะมีวิธีแก้ไข อย่างไร? รูปแบบไหนบ้าง บทความนี้มีคำตอบ
Table of Contents
Toggleการทำ Live Stream ในปัจจุบันเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายทั้งในภาคธุรกิจต่างๆ ไม่ว่างจะเป็นภาคการศึกษา อุตสาหกรรมบันเทิง และอื่นๆอีกมากมาย ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าและการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตที่สะดวก ทำให้การถ่ายทอดสดเป็นช่องทางสำคัญในการสื่อสารและเชื่อมผู้ชมเข้าด้วยกันในวงกว้าง ซึ่งภาพรวมการทำ Live Stream ในปี 2024 นี้ก็ได้มีการพัฒนาและปรับปรุงในสิ่งต่างๆมากมายไม่ว่าจะเป็น
อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง หรือ 5G กลายเป็นมาตรฐานในการถ่ายทอดสด ที่จะสามารถช่วยให้งานถ่ายทอดสดคุณภาพสูงนั้นผ่านไปได้อย่างราบรื่น ลดปัญหาความล่าช้า หรือดีเลย์ และ เพิ่มความเสถียรของสัญญาณ โดยเฉพาะในการถ่ายทอดสดนอกสถานที่นั่นเอง
ณ ปัจจุบันการถ่ายทอดสดไม่ได้จำกัดเพียงแค่ทีวีหรือเว็บไซต์อีกต่อไป ทุกแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่าง ๆ อาทิ เช่น YouTube, Facebook, Instagram, TikTok และอื่นๆนั้นมักมีฟีเจอร์ถ่ายทอดสด ที่จะช่วยให้การเข้าถึงงานถ่ายทอดสดนั้นกว้างขึ้นและหลากหลายขึ้นนั่นเอง
การสตรีมไปหลายแพลตฟอร์มพร้อมกัน หรือเรียกว่า (Multi-Streaming) ที่ปัจจุบันการถ่ายทอดสดงาน 1 งานนั้นมักจะทำการสตรีมไปหลายแพลตฟอร์ม พร้อมกัน ไม่ว่าจะเป็น Facebook Youtube และอีก 1 แพลตฟอร์มที่มาแรงสุดๆนั่นก็คือ Tiktok การสตรีมไปหลายแพลตฟอร์จะช่วยให้สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ในหลายช่องทางพร้อมกันอีกด้วย
ด้วยการพัฒนาอุปกรณ์ถ่ายทอดสดและการมาของเครือข่ายอินเทอร์เน็ต 5G ที่เร็วขึ้น ทำให้การถ่ายทอดสดความละเอียดสูงเป็นที่นิยมมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น 4K หรือแม้กระทั่ง 8K ซึ่งช่วยให้ผู้ชมได้สัมผัสประสบการณ์การรับชมที่คมชัดและมีคุณภาพสูงสุด
อุปกรณ์ Bonding เช่น LiveU Solo ที่ใช้เทคโนโลยี LRT (LiveU Reliable Transport) จะช่วยให้การถ่ายทอดสดในสภาพแวดล้อมที่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่ไม่เสถียรยังคงมีคุณภาพสูง โดยรวมสัญญาณจากหลายแหล่งเข้าด้วยกัน แม้หากมีเหตุการที่ทำให้อินเตอร์เน็ตมีปัญหา ตัว LiveU Solo ก็ยังจะ Balance สัญญาณต่อไปได้ ทำให้งานถ่ายทอดสดนั้นผ่านไปได้ด้วยดีนั่นเอง
การโต้ตอบกับผู้ชมแบบเรียลไทม์เป็นจุดสำคัญที่ช่วยเพิ่มการมีส่วนร่วม ไม่ว่าจะเป็นการตอบคำถาม, การแชร์ความคิดเห็น, การส่งของขวัญในระหว่างการถ่ายทอดสด หรือแม้กระทั่งการโหวตแบบเรียลไทม์ ทั้งหมดที่กล่าวมา ผู้ชมจะสามารถมีส่วนร่วมและรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของงานได้มากขึ้น
การทำ Live Stream บนรถขณะเคลื่อนที่ นั้นจะมีความท้าทายและข้อจำกัดอยู่ไม่น้อยเนื่องจากรถที่ขับเคลื่อนอยู่บนท้องถนนอยู่ตลอด ทำให้สัญญาญที่ไม่คงที่ระหว่างการถ่ายทำ จึงอาจะทำให้เกิดปัญหาขึ้นได้ แต่ด้วยเทคโนโลยีอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงสมัยนี้ บวกกับความเสถียรของเครือข่าย 5G จึงพอจะช่วยให้การถ่ายทอดสดนั้นมีคุณภาพและช่วยลดปัญหาการขาดหายของสัญญาณได้นั่นเอง ซึ่งปัญหาและข้อจำกัด ของการทำ Live Stream บนรถเบื้องต้น มีดังนี้
ควรเลือกใช้บริการอินเทอร์เน็ตที่มีความเสถียรสูง และเตรียมมีซิมการ์ดสำรองจากผู้ให้บริการหลายเจ้า หรือใช้เครื่องมือที่สามารถรวมสัญญาณจากหลายๆ แหล่ง (Bonding Solutions) เพื่อเพิ่มความเสถียร อย่างเช่น Live U Solo หรือ 5G Router
ตรวจสอบและทดสอบอุปกรณ์ก่อนการใช้งานทุกครั้ง รวมถึงมีอุปกรณ์สำรองเช่น กล้อง, ไมโครโฟน, และแบตเตอรี่สำรอง เพื่อรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินที่อาจะเกิดขึ้นหน้างานได้
ไม่น่าเชื่อว่าการถ่ายทอดสดบนรถจะมีปัญหาความเร็วเข้ามาเกี่ยวด้วย เพราะหากขณะขับรถและใช้ความเร็วมากเกินไป ขณะทำการถ่ายทอดสด การจับสัญญาณระหว่างซิมการ์ดกับเสาสัญญาณ อาจจะทำให้หลุดหรือดรอปได้ ซึ่งในเบื้องต้นถ้าเราใช้ LiveU ปัญหาในส่วนนี้พอจะช่วยได้ ในระดับหนึง นั่นเพราะว่าในตัว Live U นั้นมีซิมอินเตอร์เน็ตหลายซิมที่พอจะมาช่วยดึงสัญญาณ หากสัญญาณตัวใดตัวหนึ่งหลุด ซิมที่เหลือก็จะช่วงดึงสัญญาณขึ้นมา ทำให้ Balance สัญญาณกันได้ ส่งผลให้การถ่ายทอดสดนั้นสามารถดำเนินต่อไปได้ เพราะฉะนั้นความเร็วรถ จึงมีผลกับสัญญาณอินเตอร์เน็ตด้วยเช่นกัน
หากเกิดเหตุฝนตกหนัก ระหว่างขณะทำการถ่ายทอดสด สาเหตุหลักที่จะทำให้สัญญาณไม่เสถียร นั่นก็คือ “น้ำ” น้ำเป็นตัวป้องกันสัญญาณชั้นดี ที่จะทำให้สัญญาณของเรานั้นดรอปลง จึงทำให้อาจเกิดปัญหาขณะถ่ายทอดสด ซึ่งในกรณีนี้ เราก็อาจจะต้องเตรียม Solution ต่างๆไว้เผื่อหากเกิดเหตุฉุกเฉิน อาทิเช่น ตัดเข้า Break หรือถ้าฉุกเฉินจริงๆก็อาจจะต้องทำการตัด Live และเมื่อสถานการณ์กลับมาปกติจึงค่อยดำเนินงานตามแผน Solution ต่างๆที่เราวางไว้นั่นเอง
แน่นอนว่าการทำงานถ่ายทอดสดนั้นเป็นการทำงานกับสัญญาณอินเตอร์เน็ต ซึ่งในเชิงของการทำงานมักจะเจอปัญหาภาพไม่ชัดหรือวิดีโอกระตุก อยู่ไม่มากก็น้อย เนื่องจากสัญญาณนั้นมักสวิงอยู่เสมอ เพราะฉะนั้นสิ่งที่เราทำได้คือหมั่นตรวจสอบความเสถียรของสัญญาณเครือข่ายที่ใช้อยู่ ไม่ว่าจะเป็น Wi-Fi , 4G/5G , หรือ Ethernet ว่ามีสัญญาณที่เสถียรหรือไม่ ถ้าสัญญาณอ่อนลง ให้พยายามเปลี่ยนไปใช้แหล่งสัญญาณที่ดีกว่า
ทุกๆการทำงาน Live Stream ในแต่ละงานนั้นก็จะมีความแตกต่างกันออกไปตามแต่ละประเภทของงานนั้นๆ หากจะให้เรายกตัวงานที่เคยทำ Live Stream บนรถทั้งแบบขณะเคลื่อนที่ และจอดอยู่กับที่มาให้ชม เราขอยกตัวอย่างงาน EVme ยกกำลังทริปที่ผ่านมาให้ทุกคนได้ดูกันครับ งานนี้ เรา Live กันแบบเต็มอิ่มด้วยกันทั้งหมด 3 ช่วง 3 EP. ตั้งแต่เวลา 16:00 – 00:00 น. ซึ่งประกอบไปด้วย EP.1 “ขับไปคุยไป” ซึ่ง EP นี้จะเป็นการ Live Stream ขณะที่รถเคลื่อนที่จากจุดหนึ่งไปยังจุดหนึ่งตามท้องถนน และ ถัดมา EP.2 “ใครในคำถาม” และ EP.3 ยกกำลังขนหัวลุก เป็นการ Live Stream บนรถ ขณะที่รถจอดอยู่กับที่ในสตูดิโอ ซึ่งทั้ง 3 EP ที่กล่าวมาเราได้ทำการถ่ายทอดสดไปยังช่อง Youtube ของทาง ยกกำลัง ในความท้าทายของการทำงาน Live Stream ในครั้งนี้นอกจากจะไลฟ์กันยาวๆ 3 ช่วง รวมกัน 8 ชั่วโมงนั้นแล้ว สิ่งที่ท้าทายเป็นพิเศษจะมีอะไรบ้าง ไปดูกัน
เริ่มอย่างแรกเลยกับระบบเสียง สำหรับระบบเสียงของงาน EVme ยกกำลัง นั้นใน EP.1 เราใช้ไมค์ไร้สายทั้งหมด 4 ตัว โดยที่ไมค์ทั้ง 4 ตัวนั้นจะส่งไปยังตัวรับที่มีชื่อว่า Field Recorders ที่อยู่เวณหน้ารถ และตัว Field Recorders ก็จะทำการจัดการเรื่องเสียง และส่งไปยังกล้องหลักที่อยุ่บริเวณหน้ารถและเราก็จะดึงภาพและเสียงมายังจุด Control นั่นเอง
ในส่วนของปัญหาที่อาจพบเจอนั่นคือการดีเลย์ของภาพและเสียงไม่ไปพร้อมกัน โดยวิธีแก้ไขของเราคือจะแก้โดยการ ส่งภาพจากกล้อง 3 ตัวมายัง Server แล้วดึงภาพลงมา หลังจากนั้นใน 1 sorce ของภาพเราจะ Duplicate ภาพขึ้นมา 2 อัน เมื่อเกิดการดีเลย์ เราจะทำการสวิตท์เข้าซีนที่ภาพและเสียงตรงกัน และระหว่างนั้นก็จะการแก้ไขปรับจูนดีเลย์ใน Sorce อื่นๆให้ภาพและเสียงตรงกันนั่นเองครับ
และสำหรับ EP 2 ความสนุกของตอนนี้จะอยู่ที่การจัดไฟและการใช้ไมค์พร้อมกันถึง 7 ตัว เพราะฉะนั้นทางทีม Sound จะต้องคอย Manage และ Balace ของไมค์ให้พอดีและลงตัวที่สุดครับ
ถัดมาเป็นเรื่องเสียงใน EP 3 ช่วงยกกำลังขนหัวลุก ที่เราจะทำการเคลื่อนย้ายรถมาจอดไว้ข้างกัน 2 คัน จะมีคนอยู่คันละ2 คน ในหลักความเป็นจริงแล้ว 2 คนที่อยู่บนรถแต่ละคันจะไม่ได้ยินเสียงของรถฝั่งตรงข้ามกัน เราจึงต้องทำการ Set ระบบเสียงนำลำโพงไปติดตั้งที่หลังรถของแต่ละคัน เพื่อให้คนที่อยู่ในรถแต่ละคันได้ยินเสียงกันและกันนั่นเอง
อย่างที่บอกไปข้างต้นว่าสำหรับงาน EVme ยกกำลังทริป เราทำ Live ด้วยกันทั้งหมด 3 EP ซึ่งสำหรับ EP 1“ขับไปคุยไป” นั้นทุกเหตุการณ์จะเกิดขึ้นบนรถทั้งหมด โดยที่เราจะต้อง Set Up อุปกรณ์ทั้งหมดไว้ที่บนรถ และเชื่อมต่อเข้ากับตัวส่งสัญญาณภาพอย่าง LiveU เพื่อส่งภาพกลับมาให้เรา ณ จุด Control ที่สตูดิโอ อีกทั้งความท้าทายของ EP 1 คือเราจะมีกล้องทั้งหมด 6 ตัวด้วยกัน บนรถ โดยประกอบไปด้วย กล้องหลักสำหรับ Live 3 ตัวและกล้องสำหรับ Record เพื่อเอาไว้ใช้งานช่วง Post Production อีก3 ตัว
จบจาก EP ที่ 1 ถัดมาเป็น EP ที่ 2 กับช่วง “ใครในคำถาม” ซึ่งการไลฟ์ช่วงนี้จะถูกจัดขึ้นอยู่ที่สตูดิโอ มีการเซทไฟต่างๆเพื่อเพิ่มบรรยาการของงาน โดยที่ Set นี้เราจะใช้กล้อง HD Camera ด้วยกันทั้งหมด 3 ตัว โดยจะส่งภาพไปยังเครื่อง OB Switching ก่อนที่จะเผยแพร่ภาพให้เพื่อนๆที่อยู่ทางบ้านรับชมกัน โดยที่ระหว่างทำการไลฟ์จะมีการกด Sound Effect เพื่อเพิ่มบรรยากาศความสนุกสนามด้วยครับ
และสุดท้ายสำหรับ EP ที่ 3 “ยกกำลังขนหัวลุก” ทีมงานได้เนรมิตรถ Aion Y plus เป็นห้องสำหรับเล่าประสบการณ์ขนหัวลุก โดยที่ตัว Influencer จะดำเนินรายการอยู่ที่ในรถที่ถูกปรับเป็นเตียงนอน เพื่อนำเสนอ Features ภายในรถ ซึ่งจะมีการ Set ไฟเป็นสีแดงเพื่อเพิ่มบรรยากาศ อย่างที่บอกว่าเราจะมีการส่งภาพมาจากภายในรถ ซึ่งทางทีมงานจะต้องติดตั้ง กล้อง Gopro เข้าไปในรถ เพื่อให้เห็นภาพภายในรถที่กว้างขวางและส่งสัญญาณภาพออกมาและกล้อง HD Cemera อีก 3 ตัวเพื่อรับบรรยากาศภายนอกตัวรถนั่นเอง
ระบบสัญญาณอินเตอร์เน็ตนั้นเป็นปัจจัยหลักกับการทำงานถ่ายทอดสดเป็นอย่างมาก เพราะหากไม่มีสัญญาณที่เสถียรก็อาจจะทำให้ไลฟ์เรากระตุก หรือล่มได้ ซึ่งสำหรับงาน EVme ยกกำลังนี้เราก็ได้มีการนำ LIve U และ เทคโนโลยี LRT (LiveU Reliable Transport) มาใช้ในงานนี้ด้วย โดยการใช้ LiveU Solo ร่วมกับ LRT จะทำให้การถ่ายทอดสดนั้นดำเนินไปได้อย่างราบรื่น แม้ในสภาพแวดล้อมที่การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตอาจมีปัญหา เช่น บนรถที่เคลื่อนที่อยู่ หรือในพื้นที่ที่มีสัญญาณอินเทอร์เน็ตอ่อน อย่างเช่นในสตูดิโอ อีกทั้ง LRT ช่วยลดปัญหาภาพกระตุก, สัญญาณมีปัญหา, หรือการดีเลย์ในระหว่างการถ่ายทอดสด ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญสำหรับการถ่ายทอดสดนั่นเองครับ
หากจะให้สรุปการทำ Live Stream บนรถแบบเคลื่อนที่ในปี 2024 ว่ายังคงน่าสนใจอยู่มั๊ย เราต้องบอกว่า ด้วยความสามารถของเทคโนโลยีอินเตอร์เน็ตที่พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว พอที่จะช่วยให้การถ่ายทอดสดนั้นมีคุณภาพสูงและมีประสิทธิภาพได้ และการถ่ายทอดบนรถขณะเคลื่อนที่นั้นก็จะช่วยสร้างเนื้อหาที่น่าสนใจได้มากขึ้นในคอนเทนต์ของเรา ทำให้แปลกใหม่และน่าใจ แม้จะมีความเสี่ยงหรือปัญหาบางอย่างที่เราอาจไม่คาดคิดที่จะเกิดขึ้นได้ แต่ทางทีมงานนั้นก็จะต้องทำการบ้าน เตรียมความพร้อมและเลือกใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมกับการถ่ายทอดสดบนรถของเรา รวมถึงทางผู้จัดงานจะต้องทำการพูดคุยทำความเข้าใจกับทางลูกค้าถึงความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นของการทำงานถ่ายทอดสดบนรถ เพื่อความสบายใจในการทำงานทั้งในส่วนของทีมงานและฝั่งลูกค้า เพื่อที่จะให้งานของเรานั้นออกมาสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดีนั่นเองครับ
สนใจถ่ายทอดสดงานอีเวนท์ต่าง ๆ เลือก No More Work ผู้ให้บริการระบบถ่ายทอดสดครบวงจร ด้วยอุปกรณ์ที่ทันสมัย ให้ผู้ชมทางบ้านได้รับชมกันอย่างชัดเจน และไร้ปัญหาสัญญาณกระตุก เพื่อช่วยให้คุณเข้าถึงทุกกลุ่มเป้าหมายได้อย่างตรงจุด ไม่ว่าจะเป็นงานอีเวนท์ในหรือนอกสถานที่ การแข่งขันกีฬา งานสัมมนา หรือ Virtual Conference ทีมงานมืออาชีพของเราพร้อมให้บริการไลฟ์สด หากสนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อได้เลยทางอีเมล work@nomorework.co หรือโทร. 02-121-4361, 095-465-6452 ทีมงานของเราพร้อมให้บริการ
จบสาขา Event Production และ MICE Management อยากเป็น Creative Event แต่ได้มาเป็น Marketing ซะก่อน มีความสุขและความหลงใหลใน คอนเสิร์ต, แฟชั่น และการพูดคุยกับผู้คนที่หลากหลาย. ชอบในการผสมผสานเรื่องราวความคิดสร้างสรรค์ให้เข้ากับเทรนด์สมัยใหม่ของการตลาด พร้อมครีเอทผลงานให้มีจุดเด่น และไม่เหมือนใคร
25/2 ถนนนครอินทร์ ตำบลตลาดขวัญ อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี 11000
เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า
คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น
ยอมรับทั้งหมด